Sunday, 11 February 2007

เมื่อตอนเด็ก


ตอนเด็ก ๆ วัน ๆ ไม่มีไรทำ แต่วันหยุดมันจะต้องมีการนัดกันไปเที่ยว (แถวบ้าน) จริง ๆ แล้วไม่เชิงนัด ก็เพื่อนบ้านใกล้กัน ก็บางทีก็ออกไปเล่นบ้านเพื่อน เพื่อนมาเล่นบ้านเรา ออกไปเล่นแถวบ้าน พาหมาไปด้วย บางทีก็ขี่จักรยาน 

บางทีก็สอยมะม่วง บางทีก็กินมาม่าเอามาคลุกรวมกัน บางทีก็เล่นบ้าน ไปเล่นในเพิงเก่า ๆ เก็บของ (สมัยนั้นยังไม่มีอันตรายในที่เปลี่ยว) บางทีก็เตะบอล บางทีก็ตีแบด บางทีพ่อแม่ก็จับไปปล่อยว่ายน้ำรวมกันที่สระ แล้วพอเลิกว่ายก็ปล่อยให้ลูก ๆ รอ ซึ่งตรงนั้นก็จะมีสนามเด็กเล่นให้เล่น แล้วก็ซื้อไอติม ซื้อขนมกิน บางครั้งก็ปีนหลังคาเล่น (ต้องแอบพ่อแม่) บางที แอบพาหลานที่มาหาปีนไปด้วย (ดีนะที่ไม่ตกหลังคา) 

เพื่อนบ้านผมจะมีสองบ้านใกล้ ๆ กัน ก็จะไปเล่นกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะมันบ้านใกล้ มันไปกันเองโดยไม่ต้องนัด  ที่ชอบมากที่ยังจำได้คือเล่นซ่อนหา แถวบ้านที่เคยอยู่ มันจะมีต้นไม้ มีห้องเก็บของรอบ ๆ บ้าน มีที่ให้แอบสนุกมาก แล้วก็มีอีกกิจกรรม คือ นั่งรถสาลี่ (รถไม้ที่เอาไว้ขนขยะอะ เค้าเรียกกันงี้นะ) ก็เอาเก้าอี้ขึ้นไปบนรถนั่งกันหลายคน แล้วให้พี่ที่ทำทำงาน มาเข็น ๆๆ แบบเร็ว ๆ ประหนึ่งนั่งไวกิ้ง)  บางวันก็แอบเอาหนังสือพิมพ์ไปนั่งเผาไฟเล่น บางครั้งเวลาฝนตก ก็จะออกเอาร่มไปหลาย ๆ อันไปวางกับพื้นกางนอกบ้าน แล้วเข้าไปนั่งในนั้น

วัยนักเรียนต้องมีการเปลี่ยนแปลงคือ ตัดผม จากผมยาวน่ารักวัยอนุบาล กลายเป็นผมเด๋อ ๆ ทรงนักเรียนประถมน่ารักเหมือนเดิม อิอิ ตอนตัดช่วงใหม่ ๆ รู้สึกอายคนแถวบ้านมาก

แล้วสมัยก่อน ก็มักจะมีโฆษณาพวกรองเท้า แถมของเล่น ที่พอจำได้ มีฮูลาฮูป มีสปริงที่เดินลงบันได ของหลอกเด็ก ๆ หนะ สมัยนั้น ฮิตมาก สมัยนี้คงไม่มีแล้วมั้ง

สมัยนั้นมีความโหดสูง อย่าหาว่าใจร้ายนะ เคยเอายาฆ่าแมลงไปฉีดใส่อาหารหมา เพราะเกลียดนกกระจอกแถวบ้านที่เยอะมาก มันชอบมาแย่งอาหารหมากิน แถมขี้นกจะเต็มพื้นไปหมด ที่บ้านเก่ามีต้นไม้ใหญ่ เลยวางแผนเอาอาหารหมา ไปฉีดย่าฆ่าแมลง พอนกกระจอกกินก็เลยนอนตายเกลื่อนเลย น่ากลัวมาก สยอง 

ขอโทษด้วยคนมันยังเด็ก  บางทีก็ชอบเอาหมาตัวเองมาตรงที่มันมีทรายก่อสร้าง แล้วขุด ๆๆหลุมทราย แล้วเอาหนังสือพิมพ์ปูทับ แล้วหลอกหมาตัวเองให้วิ่งมาหา ให้มันตกหลุม ตอนนั้นขำ ตอนนี้สงสารจัง    วิธีจับผีเสื้อ แมลงปอ ก็คนอื่นเค้าจะค่อย ๆ ย่องไปจับใช่มะ ส่วนผมเหรอแรก ๆ ก็ทำยังงั้น แต่ค้นพบวิธีใหม่ 

คือ เอาไม้แบดไล่ฟาดให้มันตกลงมา ไม่ต้องเสียเวลาย่องจับ มันก็จะพะงาบ ๆ ลงมาร่วงกับพื้น ซาดิสม์จังวะ จำได้อีกอย่างจับผีเสื้อได้ แล้วเอาก้อนหินทับปีกไว้กลัวมันหนี แล้วไปเที่ยวเล่นต่อ บางทีก็เด็ดปีกแมงปอด้วย  มีอยู่ครั้งนึงพยายามเอาผึ้งเข้าไปในปากปลาแรด (ปลาตัวใหญ่) ปรากฏว่ากรรมตามสนองผึ้งมันต่อยนิ้วเราแทน

บาดเจ็บสมัยเด็กที่ประจำเลย คือ เข่าถลอก ข้อศอกถลอกเป็นสะเก็ดประจำเลย แล้วก็จะคัน ๆ อยากแกะ ๆ เพราะชอบวิ่งเล่นหกล้มกัน อีกอย่างคือนิ้วเท้าเนื้อเหวอะ จากการที่เตะบอลเท้าเปล่า แล้วชอบเอานิ้วเท้าไปจกพื้นให้เนื้อมันเผยอ อันนี้น่ากลัวสุดในตอนนั้น แล้วก็มีนิ้วส้นบ้างนาน ๆ ที อ้อ มีครั้งนึงไปวิ่งไล่กันแถวราวตากผ้าของบ้านอื่น แล้ววิ่งชนราว เย็บต้องหลายเข็ม

เด็กต่างจังหวัดอย่างผม (รวมทั้งถามจากเพื่อนต่างจังหวัดที่รู้จักทั้งหมด) พบว่า ทุกคนจะต้องเคยเหยียบขี้หมาด้วยเท้าเปล่า ๆ มาแล้ว เพราะมันต้องมีสักช่วงนึงตอนเด็กหละน่า ที่ถอดรองเท้าออกไปวิ่งเล่น แล้วก็ แหมะ!!

พอตกเย็นก็วิ่งกลับบ้านมากินข้าว หิว ๆๆ อร่อย ๆๆ ตลกดีที่ชีวิตวัน ๆ ทำแค่นั้นกลับมีความสุขมาก โดยที่ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าสุขคืออะไร แต่มันสนุกไปวัน ๆ ไม่ได้คิดว่ามันมีค่า ขณะที่ตอนนี้โตแล้ว กลับต้องพยายามใฝ่หาความสุข แปลกดี ที่เล่ามาคือตอนเด็ก ๆ จริง ๆ  
แล้วก็เด็กบ้านนอกนะ ไม่รู้คนอื่นเป็นแบบนี้รึเปล่า 

แต่เด็กสมัยนี้คงไม่แบบนี้แล้วมั้ง สมัยนั้นยังไม่มีเนตให้เล่น ยังไม่มีเกมมากมาย ยังไม่มีไรมากมายแบบตอนนี้เลย จะว่าไปสมัยเด็กเรา บรรยากาศจะคล้าย ๆ หนังเรื่อง “แฟนฉัน”เลยหละ    เฮ้อ คนแก่แล้วก็มักจะนึกถึงวัยเด็ก  ดีใจจังที่เราเกิดและโตมาเป็นเด็กต่างจังหวัดในสมัยนั้น  ^ ^

No comments:

Post a Comment

Comments are welcome, in English or Thai (I can't read anything else). Anonymous posting is discouraged, unless you'd like to give yourself a name at the bottom of your post, so we can tell who you are.