มีอยู่ช่วงนึง ผมรู้สึกว่าตัวเองรายได้น้อย เบื่องาน อยากมีอาชีพเสริม หลังจากคิดอยู่ร้อยแปดตลบประกอบกับมีแนวร่วม คือมีเพื่อนที่ทำงานที่สนิทพอสมควรเค้าก็สนใจ เลยตกลงกันได้ว่าจะลองขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดดู
แหล่งที่ควรจะไปซื้อเสื้อผ้าแบบเหมาโหลราคาถูก ๆ ในตอนนั้นที่รู้ คือ ที่ประตูน้ำ ที่สำเพ็ง ที่พาหุรัด ที่โบ๊เบ๊ ที่รู้คร่าว ๆ ประมาณนี้ ซึ่งแหล่งใหญ่ ๆ ที่ตอนนั้นนิยมกันคือประตูน้ำ เลยลองไปเดิน ๆ ดูที่ประตู้น้ำ ว่าจะหาซื้อไรมาขาย แต่ว่าเสื้อผ้าทั้งโหล ทั้งเสี่ยว ไปๆ มา ๆ เลยไปซื้อโบ๊เบ๊ เดิน ๆๆๆๆๆๆๆๆ หาของน่าซื้อเองยากมาก จนอยากผลิตเอง จนไป ๆ มา ๆ ก็เดินจนขาลาก เพื่อเลือกของที่เราคิดว่าน่าจะพอขายได้ สรุปกันที่ซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงมาขาย เลือกเอาแบบต้นทุนถูก ๆ
การไปเดินหาของมาขายทำให้มีความรู้เพิ่มอีกว่า ไอ้เสื้อที่เราเห็นแบขายตามตลาดนัด 99 บาท ผมสามารถซื้อมาในราคาตัวละ 19 บาทมั่ง 39 บาทมั่ง
ถ้าจะเอาของเกรดดีขึ้น ก็มีระดับราคาสูงขึ้นไป ซึ่งสำหรับผมคนไม่เคยยยยยมีประสบการณืขายของเลย ก็ต้องซื้อถูก ๆ ไว้ก่อน กลัวเจ๊งมาก ๆ
ถกเถียงกับเพื่อนแทบตายจนได้เสื้อมาตั้งได้สามโหล (มากสุด ๆ ที่มีปัญญาจ่ายแล้ว อิอิ) แล้วจากนั้นก็ซื้อถุงพลาสติกมาใส่ของด้วย
ซื้อแค่นั้นจริง ๆ เพราะกะจะลองดูเล่น ๆ ก่อน จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการพยายามหาทำเลที่ขายของที่ค่าเช่ามันถูก ๆ แต่มันไม่ใช่ง่าย ๆ เลย
ราคาเช่าที่ไม่แพง คนก็เดินน้อย ถ้าทำเลดีราคาเป็นหมื่นขึ้นไปเลยนะต่อเดือน ที่เท่ามดเดินเอง
บางที่ต้องมาแย่งประมูลที่เพื่อขายวันต่อวันแต่เช้าตรู่ ซึ่งผมทำงานประจำด้วยคงทำไม่ไหว
บางที่ต้องมาแย่งประมูลที่เพื่อขายวันต่อวันแต่เช้าตรู่ ซึ่งผมทำงานประจำด้วยคงทำไม่ไหว
ด้วยความกลัวขาดทุน บวกงบน้อย บวกไม่พร้อมหลาย ๆ อย่าง เลยปูขายในตลาดนัดตรงพื้นริมถนนซะเลย (ถนนหลวงไม่อนุญาตให้ขายของ)
ไอ้เราก็กะเสี่ยงนึกว่าจะฟรี ที่ไหนได้ แม้แต่ถนนของหลวง ก็ยังมีมาเฟียย่อย ๆ แถวนั้นเดินเก็บค่าที่ด้วย ซึ่งก็จ่ายไปถือว่าไม่แพง
ถือเป็นค่าบริการเวลาเทศกิจมา เค้าจะมีส่งสัญญาณบอกกันเป็นระลอก ๆ อิอิ ประเทศไทยจงเจริญ
ผมตั้งราคาขายไปโดยตั้งราคาตัวละ 99 บาท จากทุนต่ำสุด 19 บาทเอง อิอิ กำไรสุดยอด ๆ
(ทำให้นึกไปถึงที่เราเคยเป็นคนซื้อ แหม ๆๆ คนขายเวลาเราต่อทำบอกลดไม่ได้ ทุนสูง โกหกหน้าไม่อาย หมั่นไส้)
ผมตั้งราคาขายไปโดยตั้งราคาตัวละ 99 บาท จากทุนต่ำสุด 19 บาทเอง อิอิ กำไรสุดยอด ๆ
(ทำให้นึกไปถึงที่เราเคยเป็นคนซื้อ แหม ๆๆ คนขายเวลาเราต่อทำบอกลดไม่ได้ ทุนสูง โกหกหน้าไม่อาย หมั่นไส้)
วันนั้นตอนแรกเขิน ๆ อาย ๆ มือใหม่หัดขาย แต่คนมาซื้อเยอะมาก เนื่องจากมีการวางแผนล่วงหน้าคือลองเดินแถวนั้นก่อน
แล้วเลือกว่าเสื้อที่เรามาขายไม่ซ้ำกับเจ้าที่ขายแถวนั้น แล้วยังตั้งราคาถูกกว่าตัดราคาซะเลย อิอิ
แถมใครต่อราคาก็ลดง่าย ๆ มาก เพราะยังไงก็กำไรเหนาะ วั้นนั้นขายไปเกือบหมด
และทำให้เราได้รู้ว่างานขายของสนุก แต่ลำบากกว่าที่คิด เพราะถ้าไม่ทำเองอาจไม่คำนึงถึงได้
อาทิเช่น ถ้าฝนตก คือเจ๊งไม่มีคน ถ้าวันไหนคนน้อยจะต้องจ่ายค่าเช่าที่ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ที่เลี่ยงไม่ได้เลย
แถมใครต่อราคาก็ลดง่าย ๆ มาก เพราะยังไงก็กำไรเหนาะ วั้นนั้นขายไปเกือบหมด
และทำให้เราได้รู้ว่างานขายของสนุก แต่ลำบากกว่าที่คิด เพราะถ้าไม่ทำเองอาจไม่คำนึงถึงได้
อาทิเช่น ถ้าฝนตก คือเจ๊งไม่มีคน ถ้าวันไหนคนน้อยจะต้องจ่ายค่าเช่าที่ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ที่เลี่ยงไม่ได้เลย
ถ้าทุนไม่หนาพอแบบผม ของก็จะดูน้อยไม่หลากหลาย และเมื่อของขายใกล้หมด
จะพบว่ามันจะเหมือนวางเศษผ้าไม่กี่ชิ้นเหลือ ๆ ซึ่งไม่มีใครมาดูแน่ ๆ เพราะงั้นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนอย่างรุนแรง เพื่อมีของเยอะ ๆ
และเผื่อเวลาวันไหนขายไม่ออกอีกต่างหาก อีกทั้งเหนื่อยในการเอาของวางขายและเก็บ ซึ่งผมทำวันเดียวก็เลิกไปเลย ไม่ใช่เข็ด
แต่เพื่อนร่วมงานอีกคนเค้าได้งานใหม่ที่ต่างจังหวัด ผมไม่มีเพื่อนทำ ผมก็รู้สึกตกระกำลำบากคนเดียวเกินไป
อีกทั้งผมยังมีงานประจำด้วยเลยไม่มีผลกระทบอะไรที่ต้องแคร์
เป็นประสบการณืที่ดีอยางนึง และทำให้รู้ว่าถ้ามีของขายที่มีเอกลักษณ์ยิ่งจะทำให้เสี่ยงน้อยลง ไม่โหลด้วย
แล้วจะกำไรได้มาก ๆ เลย ถ้าขายดีและดวงดีนะ แต่ยากจิง ๆ เลยวะ ^^\/
แล้วจะกำไรได้มาก ๆ เลย ถ้าขายดีและดวงดีนะ แต่ยากจิง ๆ เลยวะ ^^\/
No comments:
Post a Comment
Comments are welcome, in English or Thai (I can't read anything else). Anonymous posting is discouraged, unless you'd like to give yourself a name at the bottom of your post, so we can tell who you are.